ฉลองร็อดเจอร์สคุมทัพ เลสเตอร์ ซิตี้ กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งในรอบ 8 เกมทุกรายการ เมื่อเล่นในคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมไล่บดเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปแบบสนุก 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก คืนวันอังคารที่ผ่านมา ซิวสามแต้มในบ้านเสียทีหลังพ่ายคารัง4เกมติด กระโดดขึ้นอันดับ 11 ส่วนทัพนางนวล อยู่ที่ 16 ต้องดิ้นหนีตกชั้นต่อไป โดยเกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือคนใหม่ป้ายแดง “จิ้งจอกสยาม” เข้ามาชมเกมในสนามด้วย
สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับแย่ลงเรื่อยๆหลังพ่าย 6 นัดใน 7 เกมทุกรายการโดยที่ไม่ชนะใครเลย ที่แย่คือแพ้คาบ้าน 4 เกมติดทำให้ โคล้ด ปูแอล โดนไล่ออกทันทีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทว่าก่อนแมตช์นี้จะเริ่มฟาดแข้ง สาวกจิ้งจอกด้รับข่าวดีเมื่อ สโมสรยืนยันอย่างเป็นทางการในการดึงตัว เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ามาคุมทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเกมนี้อดีตกุนซือเซลติก และลิเวอร์พูล ก็ได้เข้ามานั่งชมเกมในสนามด้วย
ส่วยผลงานของ ไบรท์ตัน ในลีกค่อนข้างหน้าผิดหวังสวนทางกับในถ้วย เอฟเอ คัพ ที่ทะลุเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
เกมนี้เจ้าถิ่นแนวรุกส่งสามประสานทั้ง เดมาไร เกรย์, เจมี่ วาร์ดี้ และฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ขณะที่ ไบรท์ตัน เกมรุกฝากความหวังไว้ที่ เกล็นน์ มาร์รี่ย์ แลซอลลี่ มาร์ช
สตาร์ทเกมมาได้แค่ 10 นาที “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ชิงขึ้นนำไปก่อนน เอ็นดิดี้ แย่งบอลตรงกลางก่อนจ่ายให้ ยูริ ตีเลม็องส์ ห้องเครื่องชาวเบลเยี่ยม พาบอลจากแดนกลางก่อนแทงบอลให้ เดมาราย เกรย์ ปีกจอมพลิ้วหลุดเข้าไปเลือกยิงผ่านมือ แม็ทธิว ไรอัน เข้าไปอย่างเยือกเย็น
อีก 5 นาทีต่อมา เลสเตอร์ เกือบได้ประตูหนีห่างออกไป บอลขึ้นทางซ้ายมาที่ ชิลเวลล์ ลากบอลเข้ากรอบก่อนหักมากลางประตูให้ เกรย์ ตามมายิงแต่บอลติดบล็อกแข้งไบรท์ตันอย่างน่าเสียดาย
นาที 17 โอกาสของเจ้านกนางนวลมีลุ้นบ้าง ปาสกาล โกรสส์ เปิดคอนเนอร์ทางด้านซ้ายมาเข้าหัว เชน ดัฟฟี่ ขึ้นโขกแต่บอลหลุดกรอบเหินคานออกหลังไป
นาที 27 เจ้าถิ่นหวิดไปอีกครั้ง เมื่อ ปาสกาล โกรสส์ ได้หวดนอกกรอบบอลไปแฉลบ อีแวนส์ จะเสียบใต้คานอยู่แล้วแต่ดีที่ ชไมเคิ่ล ยังไวพุ่งปัดบอลเหินคานออกหลังแบบหวุดหวิด
เกมรุกทีมเยือนเริ่มมาเป็นชุด อีก 10 นาที่ต่อมา กาเอต็อง บ็อง ลากถึงเส้นหลังก่อนหักบอลแฉลบแนวรับเลสเตอร์มาตั้งให้ อันโธนี่ น็อคคาร์ท ได้วิ่งมาหวดเต็มข้อแต่บอลยังไม่ผ่านมือ ชไมเคิ่ล เซฟไว้ได้
จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ไบรท์ตัน 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เขี่ยบอลแค่นาทีเดียว เดมาราย เกรย์ ตักบอลเข้ากลางให้ เจมี่ วาร์ดี้ เทกขึ้นโขกบอลหลุดกรอบแบบได้เสียว
เช่นเดียวกับ ไบรท์ตัน นาที 49 เกือบทวงประตูตีเสมอได้สำเร็จ ปาสกาล โกรสส์ วิ่งสอดก่อนพาบอลถึงเส้นหลัง แล้วตอกส้นเข้ากลางมาให้ เกล็นน์ มาร์รี่ย์ วิ่งมาซัดบอลเต็มข้อแต่บอลเหินคานไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
และเป็นแอ็คชั่นสุดท้ายของ โกรสส์ หลังตอกส้นแล้วตัวเองถลาเสียหลักจนเจ็บ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วส่ง บิสซูม่า ลงมาเล่นแทน
ซึ่งถัดมา นาที 61 บิสซูม่า ได้บอลตรงกลางจาก เดล สตีเฟ่น ก่อนจะตะบันด้วยขวาเต็มข้อบอลพุ่งถากเสาออกไปชนิดที่ ชไมเคิ่ล ได้แต่เป่าปาก
นาที 64 ทีมเยือนเมื่อทำไม่ได้ เลสเตอร์ ลงโทษหนีห่างเป็น 2-0 ทันที เจมส์ แมดดิสัน แทงบอลให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแบบไม่จับเต็มข้อบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด
ผู้ให้การสนันสนุน ufabet888.me
ขอขอบคุณ siamsport